ช็อก! มิจฉาชีพใช้ AI Deepfake ปลอมเป็นผู้บริหาร หลอกพนักงานบริษัทสูญเงิน 892 ล้านบาท

ฮ่องกง – 6 กุมภาพันธ์ 2567 – โลกออนไลน์ต้องตะลึง เมื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์พัฒนาเทคนิคการหลอกลวงรูปแบบใหม่ โดยใช้เทคโนโลยี AI Deepfake ปลอมแปลงใบหน้าและเสียงของผู้บริหารระดับสูง หลอกพนักงานบริษัทข้ามชาติให้โอนเงินจำนวนมหาศาล สูญเงินไปกว่า 892 ล้านบาท!

กลโกงสุดแนบเนียน

เหยื่อในคดีนี้คือพนักงานบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่งในฮ่องกง เขาได้รับอีเมลจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของบริษัท เนื้อหาในอีเมลแจ้งให้โอนเงินจำนวนมากไปยังบัญชีต่างประเทศ

ในตอนแรก พนักงานคนดังกล่าวไม่เชื่อและคิดว่าเป็นอีเมลหลอกลวง แต่ต่อมาเขาได้รับการติดต่อทางวิดีโอคอลจากบุคคลที่อ้างว่าเป็น CFO และผู้บริหารคนอื่นๆ ของบริษัท ซึ่งหน้าตาและเสียงเหมือนกับตัวจริงมาก

เทคโนโลยี Deepfake สุดล้ำ

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เทคโนโลยี Deepfake ปลอมแปลงใบหน้าและเสียงของผู้บริหารบริษัท หลอกให้พนักงานตายใจและเชื่อว่าบุคคลที่พูดคุยด้วยคือผู้บริหารตัวจริง

สูญเงินเกือบ 900 ล้านบาท

พนักงานที่ถูกหลอกลวง ตัดสินใจโอนเงินจำนวนกว่า 200 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 892 ล้านบาท) ไปยังบัญชีต่างประเทศ กว่าพนักงานจะรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงก็หลายวันต่อมา เมื่อเขาเริ่มสงสัยจำนวนเงินที่โอนไป จึงติดต่อสำนักงานใหญ่ของบริษัทเพื่อตรวจสอบ

คดี Deepfake เพิ่มสูงขึ้น

สำนักงานตำรวจฮ่องกงเปิดเผยว่า พบการใช้เทคโนโลยี Deepfake ปลอมแปลงใบหน้าบนบัตรประชาชนเพื่อหลอกระบบการจดจำใบหน้า มากกว่า 20 คดี

บทเรียนราคาแพง

คดีนี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงอันตรายของเทคโนโลยี Deepfake และกลโกงรูปแบบใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประชาชนควรระมัดระวังให้มากขึ้น

วิธีป้องกัน