หลายคนคงเคยได้ยินวิธีแก้ iPhone เปียกน้ำด้วยการแช่ในถุงข้าวสาร แต่วิธีนี้อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด Apple ออกมาเตือนเองว่าวิธีนี้ ไม่ควรทำ เพราะอาจทำให้ iPhone เสียหายมากกว่าเดิม
ทำไม iPhone เปียกน้ำแล้วห้ามแช่ข้าวสาร?
- ระบบตรวจจับของเหลว: iPhone รุ่นใหม่ ๆ มีระบบตรวจจับของเหลวภายในเครื่อง เมื่อตรวจพบน้ำ จะตัดการชาร์จไฟเพื่อป้องกันความเสียหาย การแช่ข้าวสารอาจทำให้ระบบตรวจจับทำงานผิดพลาด
- ชิ้นส่วนเล็ก ๆ ในข้าวสาร: ข้าวสารมีเศษฝุ่น ดิน ทราย และเมล็ดข้าวที่แตกหัก สิ่งเหล่านี้อาจเข้าไปอุดตันในช่องต่าง ๆ ของ iPhone เช่น ช่องชาร์จ ช่องหูฟัง ปุ่มกด ไมโครโฟน และลำโพง
- ความชื้น: การแช่ข้าวสารอาจทำให้ iPhone แห้งช้าลง น้ำอาจซึมเข้าไปส่วนอื่นของเครื่อง
แล้วควรทำอย่างไรเมื่อ iPhone เปียกน้ำ?
- ถอดสายชาร์จ หูฟัง และอุปกรณ์อื่น ๆ ออก
- ปิดเครื่อง iPhone
- เช็ดตัวเครื่องให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ห้ามใช้ไดร์เป่าผม กระดาษทิชชู่ หรือผ้าขนหนู เพราะอาจทำให้ iPhone เสียหาย
- วาง iPhone ไว้ในที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก วาง iPhone ในแนวตั้ง คว่ำพอร์ตชาร์จลง เพื่อให้น้ำไหลออกมา
- รอจน iPhone แห้งสนิท ใช้เวลาประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง
หาก iPhone ยังขึ้นข้อความเตือนว่าตรวจพบของเหลว
- รออีก 24 ชั่วโมง
- ติดต่อ Apple Support เพื่อขอความช่วยเหลือ
สำหรับ iPhone รุ่นที่รองรับน้ำ
- iPhone 7 ขึ้นไป
- Apple Watch Series 2 ขึ้นไป
สามารถดูดซับน้ำได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ควรแช่ในน้ำนาน ๆ
ข้อควรระวัง
- ห้ามเป่า iPhone ด้วยไดร์เป่าผม
- ห้ามเขย่า iPhone
- ห้ามนำ iPhone ไปตากแดด
ตัวอย่าง
สมมติว่าคุณทำ iPhone ตกน้ำ สิ่งแรกที่ควรทำคือถอดสายชาร์จ หูฟัง และอุปกรณ์อื่น ๆ ออก ปิดเครื่อง iPhone เช็ดตัวเครื่องให้แห้งด้วยผ้านุ่ม วาง iPhone ไว้ในที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก รอจน iPhone แห้งสนิท
การป้องกัน
- ใส่ iPhone ในเคสกันน้ำ
- หลีกเลี่ยงการนำ iPhone ไปใกล้แหล่งน้ำ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพอร์ตชาร์จและช่องหูฟังปิดสนิทก่อนนำ iPhone ไปใกล้น้ำ
สรุป
การแช่ iPhone เปียกน้ำในถุงข้าวสาร อาจทำให้ iPhone เสียหายมากกว่าเดิม ควรทำตามวิธีที่ Apple แนะนำ เพื่อป้องกัน iPhone ของคุณเสียหาย
Apple เตือนเอง หาก iPhone เปียกน้ำ อย่าเอาใส่ถุงข้าวสาร!
เงินขาดมือ ต้องการเงินด่วน เราช่วยได้
โทร : 094-6323-964
Line : @cashtofast